สรุป คำถาม-คำตอบ ในการประชุมนักวิเคราะห์ของไตรมาสที่ 2 ปี 2557 (วันที่ 7 สิงหาคม 2557)

1. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารเป็นอย่างไรบ้าง

ในช่วงที่ผ่านมาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสองเป็นหลัก โดยเป็นผลกระทบมาจากโครงการรถคันแรกที่ส่งผลให้ราคารถมือสองลดลง ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ปล่อยภายใต้นโยบายสินเชื่อของธนาคารเกิดหนี้เสียขึ้นเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามภายใต้นโยบายการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่เข้มงวดขึ้นของกลุ่มธนชาตตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีก่อน ธนาคารคาดว่าอัตราการเพิ่มของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในครึ่งปีหลังน่าจะลดลง รวมทั้งธนาคารยังคงเป้าหมายต่อเนื่องที่จะลดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ต่ำลง

2. การตั้งสำรองในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร

การตั้งสำรองของธนาคารในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจาก การตั้งสำรองขาดทุนจากการขายรถยึดมีแนวโน้มดีขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาธนาคารมีการยึดรถเพิ่มขึ้นและเร่งประมูลขายรถออกไปให้เร็ว อีกทั้งนโยบายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จะเป็นผลให้อัตราการตกชั้นของลูกหนี้ลดลง และเกิดหนี้เสียลดลง

3. การเติบโตของสินเชื่อในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร

สินเชื่อเช่าซื้อน่าจะหดตัวลง เนื่องจากยอดขายรถยนต์ได้ชะลอตัว อย่างไรก็ตามคาดว่า สินเชื่อน่าจะเติบโตได้จากสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก โดยสินเชื่อธุรกิจยังมีความต้องการในการขออนุมัติสินเชื่อและการเบิกเงินกู้ของลูกค้า ส่วนสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งเน้นลูกค้าเก่าซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจอาหารและบริการที่นำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือขยายธุรกิจ ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยคาดว่ายังเติบโตตามการรอโอนโครงการใหม่ๆอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

4. สถานการณ์ทางด้านเงินฝากในครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

การแข่งขันทางด้านเงินฝากของธนาคารน่าจะไม่มีความรุนแรงในครึ่งปีหลัง เนื่องจากธนาคารคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะมีนโยบายในการรักษาสภาพคล่องในตลาดให้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงและธนาคารของรัฐยังไม่มีความต้องการใช้เงินเป็นจำนวนมากในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมีต้นทุนเงินฝากที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ เนื่องจากธนาคารขนาดใหญ่มีสัดส่วนของ CASA สูงถึงร้อยละ 50-60 ของเงินฝาก ดังนั้นธนาคารมีแผนในการลดต้นทุนเงินฝาก โดยมุ่งเน้นในการเพิ่มสัดส่วน CASA ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยการชักชวนลูกค้าสินเชื่อให้เปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารมากขึ้น

5. ธนาคารมีแผนจะเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมอย่างไรบ้าง

ธนาคารคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในไตรมาสก่อน รายได้ดังกล่าวอาจจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงมุ่งเน้นการสนับสนุนรายได้ค่าธรรมเนียมต่างๆเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมจากบริการบัตรเอทีเอ็มและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต อีกทั้งธนาคารได้มุ่งเน้นที่จะขยายไปทางด้านธุรกิจจากการทำ Letter of Credit (L/C), Trust Receipt (T/R) และ การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ (FX) ให้มากขึ้นเช่นกัน

6. ธนาคารมีแผนในการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างไรบ้าง

ธนาคารยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีจากการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยเสริมเพื่อลดความซับซ้อนในขั้นตอนการทำงานและสร้างกระบวนการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและการลดลงของต้นทุนอย่างต่อเนื่อง